เหตุที่ทำให้สีกายและรัศมีของเทวดาต่างกัน

 

 

จากพระไตรปิฎก

พระ อนุรุทธะ กล่าวว่า เวลาเทวดาประชุมกันย่อมมีสีกายต่างกัน แต่รัศมีเหมือนกัน เปรียบเหมือนจุดคบเพลิงมารวมกันหลายดวง จะมีเปลวต่างกันแต่แสงสว่างไม่ต่างกัน แต่ถ้าเทวดาแยกกันอยู่จะมีสีกายและรัศมีต่างกัน เหมือนคบเพลิงที่จุดแยกกัน ย่อมมีเปลวและแสงสว่างต่างกัน

ณ ที่เดียวกันนั้น พระอภิยะ พระกัจจานะ ซึ่งเดินทางไปด้วยได้ถามว่า เทวดาบางพวกมีรัศมีน้อย บางพวกรัศมีมาก อะไรเป็นสาเหตุให้เป็นเช่นนั้น

ท่านอนุรุทธะกล่าว ว่า ที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะการเจริญเจโตวิมุตติอันเป็นมหัคคตะ (แผ่เมตตา มุทิตา อุเบกขา ไปในพื้นที่ที่ถือว่ามีอารมณ์ยิ่งใหญ่) อันมีจุดขอบเขตแตกต่างกัน คือ บางคนยึดจุดบริเวณโคนต้นไม้ ๒ - ๓ ต้น บางคนยึดบริเวณขอบเขตบ้าน บางคนขยายขอบเขตออกไปเป็น ๒ - ๓ หมู่บ้าน

บาง คนขยายขอบเขตออกไปถึงมหาอาณาจักรหนึ่งหรือมากกว่า และยังมียิ่งกว่านั้นอีก คือขยายออกไปถึงตลอดพื้นแผ่นดินและมหาสมุทร เมื่อขอบเขตการเจริญเจโตวิมุตติกว้างและแคบแตกต่างกันเช่นนี้ หลังจากสิ้นชีวิตเกิดเป็นเทวดา รัศมีจึงแตกต่างกัน บางคนมีรัศมีมาก บางคนมีรัศมีน้อย

ส่วนเทวดาที่มีรัศมีบริสุทธิ์ และรัศมีเศร้าหมองนั้น ขึ้นอยู่กับขณะเจริญภาวนา ถ้าสามารถข่มความง่วงนอนและความฟุ้งซ่านได้ เมื่อเกิดเป็นเทวดาก็จะมีรัศมีบริสุทธิ์ แต่ถ้าไม่สามารถทำให้จิตผ่องใสได้ เมื่อเกิดเป็นเทวดาก็จะมีรัศมีเศร้าหมองได้

สุดท้ายเพื่อเป็นการตอบ คำถามของพระกัจจานะ ท่านพระอนุรุทธะได้กล่าวว่า ท่านเคยร่วมอยู่ร่วมเจรจาสนทนากับพวกเทวดาเหล่านั้น จึงสามารถทราบเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

 

 

 


หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ห้องสมุดวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร
เลขที่ ๒๕๐/๑ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จังหวัด กรุงเทพมหานคร
copyrights 2004 watrakang.com. all rights reserved. โทร.02-418-1079
library@watrakang.com